Skip to main content

ระบบอัตโนมือในเยอรมันและศิลปะในสถานีรถไฟใต้ดิน

Submitted by ezybzy on

เขียนไว้ที่ UBMTA เรื่องรถเมล์ คราวนี้ไม่ใช่เรื่องรถเมล์ แต่ก็เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกันนั่นคือรถไฟ

อยู่ที่เยอรมันได้นั่งรถไฟเยอะมาก ก็ตามที่เคยเขียนไปคือรถไฟมีหลายประเภท เป็นรถรางประจำเมือง (TRAM), รถไฟของรัฐ (S-Bahn), รถไฟใต้ดิน (U-Bahn), รถไฟระหว่างเมืองอื่นๆ (RB, RE, IC, ICE, อะไรอีกซักอันนึกไม่ออก)

ลองนึกถึงภาพบ้านเราเวลานั่งรถไฟหลายๆ ประเภท เมื่อรถจอดนิ่งที่สถานีจะเกิดอะไรขึ้น? แน่นอนประตูรถทุกบานจะถูกเปิดออก ผู้โดยสารจะลงจะขึ้นก็เดินไป พอแน่ใจว่าไม่มีผู้โดยสารขึ้นลงแล้วประตูก็จะถูกปิด รถก็ออก

แต่ที่นี่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อรถถึงสถานี มันก็จะจอดอยู่อย่างนั้นเลย ถ้าไม่มีคนขึ้นคนลงในช่วงเวลาที่กำหนดมันก็จะออกไปเลย ประตูก็ปิดอย่างนั้น!

อาจจะสงสัยว่า เห้ยประเทศพัฒนาแล้วแบบนี้แค่เปิด-ปิดประตูอัตโนมัติทำไมทำไม่ได้? (ทีในห้างนี่แทบจะเปิดปูพรมอัตโนมัติเชิญเข้าเลย ฮา) เหตุผลมันมีครับ

เราอาจจะคุ้นๆ ภาพว่าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของเราอากาศค่อนข้างเย็น แถมมีประตูมากั้นขวางทางก่อนจะลงรถอีก (เปิดไว้ก็เปลืองไฟเครื่องปรับอากาศซิ) แต่ที่นี่อากาศเย็น (โดยไม่ต้องปรับอากาศ) และก็ไม่มีประตูกั้นขวางทางเชื่อมรถไฟด้วย การจะเปิดประตูรถไฟเล่นๆ บ่อยๆ ย่อมไม่ดีแน่ (ลมหนาวมันจะเข้ามาในระบบที่อุ่นๆ ทำให้ระบบต้องทำงาน แล้วคนที่อยู่ข้างในตัวรถคงจะไม่ชอบใจแน่ๆ) ดังนั้นทางออกสำหรับปัญหานี้ที่ดีที่สุดน่าจะเป็นการให้ผู้ใช้กดเปิดประตูเอาเองถ้าต้องการขึ้น-ลงจากรถ

ทีนี้สำหรับผู้มาเยือนเช่นผม ก็จะประสบอาการงงนิดหน่อยเพราะยังยึดติดกับระบบอัตโนมัติของบ้านเรา มาเจออัตโนมือที่นี่ก็ทำอะไรไม่ถูก แถมรถไฟบางรุ่นยังเป็นระบบโยกเปิดประตูอีก (นั่ง Bahn อื่นๆ มันก็กดปุ่มอย่างเดียวนี่ มาเจอรถเก่าก่อนที่จะเป็นระบบกดปุ่มก็งงอีก) ไปไม่เป็นเลย

แต่จากการไปนั่งรถไฟใต้ดินในเมืองใหญ่หลายๆ เมือง ทำให้เห็นว่า เอ้อสถานีรถไฟใต้ดินนี่มันก็แนวใช่เล่นเลย คนที่นี่เขามีศิลปะดีนะ (ไม่ได้พูดถึง Graffiti ที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่กล่าวถึงเอกลักษณ์ของสถานี) ลวดลายบนกำแพงบริเวณที่เราจะยืนมองออกไปรอรถไฟฟ้าแต่ละสถานีก็มีเอกลักษณ์ของตัวเอง (อันนี้เข้าใจว่าทุกผู้ให้บริการคงต้องทำ เพื่อให้ผู้โดยสารไม่หลงสถานี เป็น Visual Guide ที่ดี) แต่ก็ต้องบอกว่าที่เห็นในบ้านเรานี่เด็กๆ มาก ที่นี่เขาอลังการกว่า และชั้นโดยสารของที่นี่เพดานกินถึงระดับของชั้นจำหน่ายตั๋วด้วย (นึกถึงสถานีลุมพินี) ซึ่งเมื่อผสมกับศิลปะบนกำแพงแล้วก็พบว่ามันเป็นงานศิลปะชิ้นใหญ่เลย (ไม่ได้ถ่ายรูปมานะ ไว้กลับไปเมืองใหญ่ๆ บางแห่งจะถ่ายมา)

Tags