กว่าจะได้ออนไลน์แบบเต็มๆ นี่ยากใช้ได้เลย (ที่หอพักไม่มีโทรศัพท์ทำให้ติดอินเตอร์เน็ตไม่ได้ ได้มาแค่สัญญาณ Wifi แผ่วๆ จากโรงอาหาร)
ตอนนั่งเครื่องคิดว่าทรมานพอสมควร เข้าใจแล้วว่าโรค Economic class มันเป็นอย่างไร ที่นั่งของ Economic มันแคบ อาหารก็ดูไม่หรูหราเท่าของที่แพงกว่าหรอก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา แต่การต่อเครื่องตอนเที่ยงคืนที่ประเทศที่สาม แล้วต้องผ่านการตรวจวัตถุต่างๆ นี่ทำให้เสียอารมณ์พอสมควร (เพราะแถวมันยาว) แล้วก็นั่งรอ เปลี่ยนมานั่งเครื่องที่เล็กกว่าเดิม ทำเลไม่ดีเท่าเครื่องแรกแถมไม่มีแอร์โฮสเตสเป็นคนไทยอีก (เครื่องแรกมีก็พอจะขอความช่วยเหลือได้สะดวกบ้าง)
พอมาถึง Frankfurt ก็รับของตามปกติ ผ่าน Immigrant ด้วยความตื่นเต้นเพราะไม่รู้ว่าเขาจะถามอะไรเยอะแยะหนักหนา (ฮา) แล้วก็มารับสัมภาระเสร็จแล้วเวลาก็เหลือหลายชั่วโมงเลย (เพราะวางแผนเผื่อสายไว้) ก็เลยต้องฝากของแล้วก็นั่งรถไฟเข้าไปใน Frankfurt โชคดีที่รถไฟขบวนที่ขึ้นไปเจอพี่คนไทยพอดี พี่เขาเลยพาเดินเที่ยวใน Frankfurt จนเกือบ 11 โมง แล้วก็นั่งรถกลับมาสนามบิน รอรถไฟขบวน ICE มายังเมือง Aachen
ที่ Frankfurt เราได้ซื้อซิมโทรศัพท์กันมา ค่าโทรก็ไม่ต่างจากบ้านเรามาก 0.15¢/minute แต่ที่ได้โทรกลับไทยราคา 0.09¢/minute เลยทำให้ได้คุยกับที่บ้าน (บ้าง) ราคาค่าอาหารต่อมื้อถ้าซื้อข้างนอกก็ตกที่ 2€ กว่าๆ (ทำกินเองประมาณ 3€ แต่คุ้มกว่าเพราะได้กินเยอะมาก) และมีข้อดีอีกข้อคือ คนในเมืองนี้ยอมพูดภาษาอังกฤษเยอะกว่าเมืองที่มาอยู่นี้
พอมาถึงที่ Aachen ก็มีคุณเลขาของ Professor มารับแล้วก็พาไปที่พัก เกิดความสับสนขึ้นนิดหน่อยทำให้ผมได้ห้องที่เล็กกว่าที่คิดสลับกับเพื่อนอีกคนแต่ไม่เป็นไร ปัญหาหลักของที่นี่คือ ห้องน้ำรวม และคิดค่าใช้น้ำอุ่น และการไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ เลยคาดว่าจะไปซื้อ USB Dongle มาใช้แทน
เอาหล่ะ อาทิตย์หน้าชีวิตจริงก็คงจะได้เริ่มแล้ว สัปดาห์นี้เหมือนมาเที่ยวพักผ่อนเฉยๆ