เนื่องจากมันเป็นเรื่องความลับของตัวผลิตภัณฑ์และเจ้าของผลิตภัณฑ์ แต่ผมเห็นว่า กระบวนการขั้นตอนในการทำงานมันน่าสนใจ ผมเลยเอาเฉพาะไส้ของกระบวนการมาสรุปให้อ่านกัน
การแปลผลิตภัณฑ์มีหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นเอกสารประกอบ, บรรจุภัณฑ์ รวมไปถึงซอฟท์แวร์ที่เป็นผลิตภัณฑ์นั้น ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการมีหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้แปล ซึ่งจำเป็นต้องจ้างมืออาชีพที่มีความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ มากกว่านักภาษาศาสตร์โดยตรงที่อาจจะไม่เข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ทำให้ได้คำแปลแบบงง ๆ มา แต่เนื่องจากการไม่เป็นนักภาษาศาสตร์ก็จะทำให้ได้ศัพท์ที่อาจจะอ่านแล้วไม่สลวยก็ได้ อันนี้ก็เป็นจุดที่ต้องไปชั่งน้ำหนักเอาตามความเหมาะสม การแปลจะถูกแปลทีละ module เนื่องด้วยข้อจำกัดหลายอย่างในการแปล เพราะข้อความที่ถูกนำไปแปลก็จะถูกจัดการด้วยมาตรฐานแบบหนึ่งที่นิยมใช้กัน ทำให้ผู้แปลยังไม่เห็นว่าสิ่งที่แปลจะไปปรากฏที่ใดบนจอภาพ แต่ด้วย module อาจจะทำให้ผู้แปลเกิดมโนภาพขึ้นได้บ้างว่ากำลังแปลอะไรอยู่และเกี่ยวกับอะไร
นอกจากผู้แปลแล้ว ยังมีผู้ทดสอบการแปล หน้าที่หลัก ๆ คือนำสิ่งที่แปลนั้นมาจับผิด จับผิดอาจจะเป็นเรื่องการสะกดคำ คำที่เลือกใช้ รวมไปถึงผลลัพธ์ของการแสดงผลข้อความนั้นด้วย ทั้งบนกระดาษ (กรณีเป็นเอกสาร) บนหน้าจอ หรือในตัวโปรแกรมที่สิ่งแปลอาจจะเกิดความเหมาะสมกับบริบทที่คำแปลนั้นวางอยู่ เช่นกล่องที่วางข้อความนั้นมีขนาดเล็กเกินกว่าข้อความที่ถูกแปลมา นอกจากการจับผิดนี้แล้วยังอาจจะต้องเสนอรูปแบบการแก้ปัญหาของคำแปลเหล่านั้นตามความเหมาะสม ความเป็นมืออาชีพของฝ่ายนี้คือ ต้องตรวจสอบให้ครบถ้วนก่อนจะส่งกลับไปแก้ไข เพราะหากมีการหลุดข้อผิดพลาดไปไม่ให้ถูกแก้ไขก็ถือว่าเป็นความผิดของฝ่ายนี้ นับว่าเป็นงานที่ต้องใช้สมาธิสูงมากคงต้องเป็นคนที่มีใจรักจึงจะทำได้ดี เมื่อมีงานที่แก้ไขมาแล้วส่งกลับมาหากในขั้นตอนที่แล้วไม่มีปัญหา ก็อาจจะตรวจสอบแค่เฉพาะส่วนที่แก้ไขมานี้ ซึ่งจะทำให้งานสามารถดำเนินได้อย่างรวดเร็วขึ้น
งานนี้อาจจะเป็นงานในฝันของหลาย ๆ คนนะ เพราะไม่ได้ใช้ความสามารถพิเศษอะไรมากมาย เน้นความใจรักและสนใจในภาษามากกว่า