จาก Keynote หลักของงาน WWDC 2014 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน น่าจะเป็นสิ่งยืนยันได้ดีว่า Apple ยังคงเป็นบริษัท Hardware ที่แตกต่างจากบริษัทในกลุ่มเดียวกัน จุดที่ทำให้แตกต่างนี้เป็นผลอันเนื่องมาจากการมีรากฐานที่มั่นคงในการผลิต Software รวมถึงการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ยังไม่สามารถมีบริษัทใดเทียบเคียงได้
หลังจากที่เก็บตัวเงียบอยู่นาน (ต้องเรียกว่าเงียบมาเป็นปีแล้ว) ปล่อยให้คู่แข่งต่าง ๆ ไล่ตามทันจนแซงหน้าไปบ้างแล้ว ฟีเจอร์ใน OS X 10.10 และ iOS 8 นั้นทำให้เรากลับมามองถึงประสบการณ์การใช้งานของ Hardware และ Software ที่ดูลื่นไหล/ต่อเนื่อง เกินกว่าที่คู่แข่งจะคิดได้ทัน ตัดประเด็นหน้าตาของระบบที่ต้องทำให้ดูทันสมัย (สังเกตว่าปราศจากการปรากฎตัวในวีดีโอของ Johny Ive มีแต่มุกกัดขบพอขำขำ) ฟีเจอร์กลุ่ม Continuity นั้นเป็นโจทย์ที่ Apple ตีแตก (ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องอื่น ๆ รบกวนใจ) เนื่องจาก Apple มองว่าลูกค้ามีอุปกรณ์หลายชิ้น การที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างอุปกรณ์นั้น เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำกันอยู่แล้ว แต่การเชื่อมโยงงานระหว่างอุปกรณ์นั้น ประสบการณ์การใช้งานยังต้องอาศัยวินัยส่วนตัวอยู่เยอะ เช่น การพิมพ์เอกสารเมื่อต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ผู้ใช้ต้องรู้เองว่ามีงานค้างแล้วจึงไปเปิดโปรแกรม ถ้าลืมก็ไม่ได้ทำงานต่อ Apple จึงสร้างระบบช่วยเตือนงานที่แตกต่างออกไป โดยแสดง Icon ของโปรแกรมงานบนส่วนซ้ายสุดของ Dock / Lock screen ซึ่งทำให้ผู้ใช้ให้ทราบได้เองว่ายังมีงานอะไรที่ทำค้างไว้อยู่และนำไปสู่งานนั้นได้โดยง่าย
นอกจากการทำงาน Apple ยังลากยาวความต่อเนื่องไปถึงกิจกรรมอื่นที่เราอาจจะเคยฝันว่าอยากจะให้มันมีการเชื่อมโยงกันแต่นึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร สิ่งนั้นคือ "การใช้งานโทรศัพท์ผ่านอุปกรณ์ที่ไม่ใช่โทรศัพท์" หลังจากที่ได้ชมการสาธิต ผมอึ้งกับมันมาก มันเป็นความฝันที่จะทำงานหน้าคอมได้อย่างต่อเนื่องโดยมองว่าโทรศัพท์ก็เป็นแค่งาน ๆ หนึ่งที่เราไม่จำเป็นต้องสนใจกับเครื่องโทรศัพท์
จากฟีเจอร์นี้ทำให้เห็นว่าการมีอุปกรณ์ของ Apple หลายชิ้นนั้นไม่ได้สร้างอุปสรรคเมื่อต้องใช้ทำงานที่ต้องสลับใช้อุปกรณ์ตามสถานการณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่บนโต๊ะคอม, ระหว่างเดินทาง, ไปจนถึงร้านกาแฟหรือสวนสาธารณะที่เราอาจจะพกพาคอมพิวเตอร์, แทปเล็ต, หรือแค่โทรศัพท์มือถือไปแล้วจำเป็นต้องทำงานบางอย่างต่อ เป็นการพิสูจน์ว่าอุปกรณ์ไม่ได้เป็นแค่ consumer ที่ดีแต่เป็น producer ที่ดีก็ได้ เป็นการเพิ่มพื้นที่ส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมของ Mac ด้วยเนื่องจากสามารถเกื้อหนุนการใช้งาน iOS Device ได้ดีและหมดจด ซึ่งคู่แข่งยังไม่สามารถสร้างประสบการณ์ในลักษณะดังกล่าวได้ เนื่องจากยังไม่มีบริษัทใดที่มีระบบนิเวศน์ได้ครบวงจรเท่า Apple
ทั้งหมดนี้ ผมเชื่อว่า เพราะ Apple ยังถือว่าตัวเองเป็นบริษัท Hardware นั่นเอง การที่จะทำ Hardware ให้มียอดขายที่ดี จำเป็นต้องมี Software ที่เกื้อหนุนกับมัน เพื่อให้มองภาพการใช้งานได้ครบถ้วน ทุกขั้นตอน และนำมาสู่ประสบการณ์การใช้งานที่ยังไม่มีบริษัทใดเลียนแบบได้นั่นเอง