เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ผมและที่สำนักงานได้เดินทางไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด (จริงๆ ควรจะเรียกว่าท่องเที่ยวประจำปีมากกว่าซิ) ครั้งนี้เราไปเที่ยวที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
รีสอร์ทที่ไปพักค่อนข้างดี น่านอนเล่นมากๆ (มี Wifi ให้ใช้ด้วย แต่ไม่ได้เอาเครื่องไป) แต่ข้อเสียคือหาดแถวๆ นี้ไม่ค่อยน่าเล่นเท่าไร (สภาพทางกายภาพของทะเลอ่าวไทย)
ทีนี้มีเหตุให้ต้องมีคนกลับบ้านก่อน (ไม่ใช่รายการ Reality เชิญคนออกจากบ้าน) ผมก็เลยขอติดรถกลับมาด้วยเนื่องจากความห่วงอะไรหลายๆ อย่าง (จริงๆ จะกลับมาดูการ์ตูนตอนเช้า เพราะถ้าอยู่ต่อถึงวันสุดท้าย คงไม่ได้ดูการ์ตูนแน่ๆ) ก็เลยได้เดินทางจากประจวบคีรีขันธ์มาที่หัวหิน
ถึงหัวหินวันศุกร์ที่ 18 ตอนประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ ซึ่งเป็นจังหวะที่รถ บขส. กรุงเทพ-หัวหิน หมดไปพอดี (จริงๆ ตอนแรกไปอำเภอปราณบุรี ตอน 2 ทุ่มครึ่งแต่ก็คลาดกับรถกรุงเทพ-ปราณบุรีเที่ยวสุดท้าย) พอไปถึง บขส. หัวหิน ผมไม่ค่อยเชื่อสายตาว่าที่นี่คือ บขส. มันเป็นอาหารห้องแถว 2 ห้อง (ใหญ่กว่าบ้านตัวเองนิดหน่อย) แล้วมีกั้นเป็นบริเวณขายตั๋วประมาณครึ่งห้องแถว ที่เหลือด้านหลังอีกนิดหน่อย กั้นเป็นห้องสำหรับให้พนักงานนอน (โอ้โห) พื้นที่ที่เหลือ เป็นเก้าอี้นั่งรอ มีทีวีให้ดูหนึ่งเครื่อง (เปิดช่อง 7 ดูละครกัน)
นั่งดูละครไปเรื่อยๆ เกือบจะ 5 ทุ่มแล้ว ก็มีรถขาขึ้น (หลังจากที่มีรถขาลงมากันหลายเที่ยว) แต่ปรากฏว่าที่นั่งไม่พอสำหรับผู้โดยสารกลุ่มของเรา ก็คิดว่าคงไม่ได้การแล้ว แต่โชคดีที่ก่อนหน้าจะมายัง บขส. เราได้ไปสอบถามตารางเดินรถไฟจากสถานีรถไฟหัวหินแล้ว ทำให้เราทราบว่าจะมีรถไฟ (รถเร็ว) ขาขึ้นจากนครศรีธรรมราชไปกรุงเทพในเวลา 00:10 นาฬิกา
เมื่อเห็นว่าไม่ได้การ รอรถคงจะป่วยการเปล่าๆ ก็เลยเดินจาก บขส. ไปสถานีรถไฟ ระยะทางประมาณ 2 ทางแยกทางข้ามรถไฟ (เดินประมาณ 5-10 นาที) พอไปถึงก็จัดการซื้อตั๋วรถไฟชั้นสาม (ราคา 154 บาท) แล้วเราก็เดินหาซื้อน้ำ เข้าห้องน้ำ แล้วก็นั่งรอ (บางคนก็นอนรอ) หลังการรอคอยประมาณ 50 นาที รถไฟก็มาถึง (สายกว่ากำหนดประมาณ 10 นาที) พวกเราก็จัดแจงขึ้นรถไฟตามแต่ตั๋วที่ได้ (ค่อนข้างกระจัดกระจาย ผมไปนั่งตู้ที่ 7 พี่ผู้หญิงและลูกและเพื่อนๆ อีก 2 คนนั่งตู้ที่ 8 พี่อีกคนไปนั่งตู้ที่ 9) ประมาณ 5 นาทีต่อมารถก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ สถานีเพชรบุรี, สถานีราชบุรี, สถานีนครปฐม, สถานีศาลายา, สถานีบางบำหรุ, ชุมทางบางซื่อ, สถานีสามเสน, และสถานีปลายทางกรุงเทพ ประมาณตี 4 ครึ่ง
ระหว่างทางเนื่องจากผมไม่ได้นอนเลย ผมก็นั่งสังเกตผู้โดยสารรอบๆ รวมถึงหวานเย็นที่เดินผ่านมาผ่านไป ของกินที่มีขายส่วนใหญ่ก็เป็นเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มความอุ่นทั้งนั้น คือหน้าต่างบนรถมันเปิดแง้มๆ อยู่ พอรถไฟวิ่งผ่านก็มีลมเข้ามาซึ่งค่อนข้างเย็น แต่ไม่ถึงกับหนาว แต่ผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็ห่มผ้ากัน บางคนก็นอนกับพื้น เป็นสภาพที่ค่อนข้างแออัดพอสมควร
มีทหาร (คงออกเวรมา) ขึ้นมากลุ่มใหญ่ๆ แล้วก็แหล่งภาษาอะไรผมก็ไม่ทราบเกือบตลอดทาง ผลัดกับครอบครัวลูกหลานเยอะ มีเสียงเด็กร้องทุก 10 นาที
ผมพยายามฟังจังหวะของรถไฟที่เคลื่อนไหวไปตามราง ก็พบว่ามันมีจังหวัดเร็วๆ ช้าๆ สลับกันไป บางช่วงฟังแล้วนึกถึงเพลงแนวที่ฟัง (จังหวะย่ำๆ แบบไม่น่าเชื่อ) ก็เพราะไปอีกแบบ สองข้างทางก็ค่อนข้างมืด มองไปเห็นแต่เงาต้นไม้กับฟ้าสีเทา เห็นไฟไหม้บนภูเขาด้วย ช่วงแถวเพชรบุรี (คงไม่มีใครไปขีดเส้นสีแดงบนฟ้ายามค่ำคืนแล้วให้เห็นได้จากระยะไกลหรอกนะ)
ถึงบางซื่อ พวกพี่ๆ เพื่อนๆ ก็แยกลงไปก่อน (ไม่บอกซักคำ ไหนว่าจะลงสามเสนด้วยกันไง) ผมก็มองจากตู้ของผม ไม่ได้โบกมือลาอะไร (ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง) แล้วผมก็ลงจากรถไฟที่สถานีสามเสน นั่งแท็กซี่กลับบ้านต่อไป ระหว่างทางกลับก็พบสาย 53 วนซ้ายมาเข้าวินรอที่ท่ารถตรงวัดโสมนัสแล้ว