Skip to main content

ความวุ่นวายในการแจ้งเปลี่ยนที่อยู่ทางไปรษณีย์กับธุรกิจสถาบันการเงิน

Submitted by ezybzy on

เมื่อกำหนดเวลาที่จะทำการย้ายบ้านแล้ว ขั้นต่อมาคือสำรวจว่ายังมีเอกสารอะไรที่ยังส่งไปที่บ้านอีกบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกเอกสารเรียกเก็บค่าบริการต่าง ๆ รวมไปถึงเอกสารจากสถาบันการเงิน

การจัดลำดับความสำคัญ

ในขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนที่อยู่นี้ต้องเรียกว่ามันไม่มีการเชื่อมโยงกันเลยต้องไปดำเนินการกับแต่ละที่เอง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องมาพิจารณาว่ามีเอกสารตัวใดที่มาบ่อย ต้องดำเนินการจัดการกับสิ่งที่ได้มาโดยเร็ว อันนี้ก็ต้องไปดำเนินการเปลี่ยนที่อยู่ภายหลังจากการย้ายบ้านไปแล้ว ส่วนพวกที่มาไม่บ่อย หรือออกแนวไม่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนหลังจากได้รับเอกสาร ก็สามารถดำเนินการไปก่อนได้เลย หรือพวกใดที่สามารถยกเลิกการส่งเอกสารทางไปรษณีย์ได้ก็แจ้งยกเลิกไปเลย

เมื่อจัดลำดับความสำคัญเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นขั้นตอนของการไปติดต่อกับแต่ละที่ ในขั้นตอนนี้ก็มีข้อเท็จจริงสนุก ๆ หลายอย่างโดยเฉพาะกับธุรกิจสถาบันการเงิน

บางที่สามารถดำเนินการออนไลน์ได้เลย บางที่ก็ต้องไปติดต่อกับพนักงาน

เนื่องจากตัวเองมีบัญชีธนาคารหลายแห่งมาก (ตามจำนวนสถานที่ทำงานที่ผ่านมาที่แทบจะต้องเปิดบัญชีใหม่เพื่อทุกที่เลย) และทุกธนาคารก็ทำ internet banking ไว้หมด ผมพบว่ามีธนาคารกลุ่มหนึ่งที่สามารถแจ้งเปลี่ยนที่อยู่ผ่านทาง internet banking ได้เลย (โดยบางธนาคารขอให้ไปแสดงตัวเพิ่มเติม) กับธนาคารอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่สามารถดำเนินกระบวนการนี้ได้ด้วยตัวเองต้องไปติดต่อที่สาขา เอกสารส่วนใหญ่ที่ร้องรอคือ สมุดบัญชี และ บัตรประชาชน

แต่ปัจจุบันธนาคารก็ไม่ได้ทำธุรกิจแต่การเงินอย่างเดียว ยังมีธุรกิจบัตรเครดิต รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์จัดการ (ไม่นับรวมประกัน แต่ผมไม่ได้มีกรมธรรม์ที่เป็นของบริษัทลูกของธนาคารจึงไม่ขอกล่าวถึง) มันจึงนำมาสู่ความวุ่นวายอีกนิดหน่อย

บริษัทบัตรเครดิต และบริษัทหลักทรัพย์จัดการ แม้จะเป็นบริษัทลูกของธนาคารแต่ก็ใช้ฐานข้อมูลลูกค้าที่ไม่เชื่อมโยงกับธนาคาร

มีธนาคารแห่งหนึ่ง (ที่ผมวงเล็บไว้ว่าต้องไปแสดงตัวเพื่อยืนยันการเปลี่ยนที่อยู่) ที่ผมมีบัญชีกองทุนอยู่ ในตอนที่ผมไปติดต่อยืนยันการเปลี่ยนที่อยู่ในตอนแรกนั้น ผมก็คิดว่าบัญชีธนาคารทั้ง 2 บัญชีที่อยู่กับธนาคารนั้นจะเปลี่ยนรวมไปถึงบัญชีกองทุนที่มีอยู่ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่เขาไม่ได้บอกว่าบัญชีกองทุนไม่เกี่ยวด้วย จนตอนที่ไปแจ้งเปลี่ยนที่อยู่กับอีก 2 ธนาคารระหว่างที่พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ก็ได้ความว่า บริษัทลูกต่าง ๆ ของธนาคารนั้นจริง ๆ แล้วต้องไปทำเรื่องแยกกันเอง ซึ่งส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ที่เราไปดำเนินธุรกรรมด้วยนั้นจะสามารถทำเรื่องข้ามบริษัทให้ได้เลย (กรอกกระดาษคำขอหลายใบหน่อย -- บางธนาคารก็ทำหน้ากากให้กรอกข้อมูลที่เดียวและออกฟอร์มเสมือนหลายใบให้แทน) แต่ก็มีธนาคารอีกแห่งหนึ่งที่ไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่ธนาคารไปดำเนินการกับที่อยู่ในส่วนของบัตรเครดิตให้ได้ ต้องโทรหา Call center อย่างเดียว

กลับมาที่ธนาคารแรกที่กล่าวถึง ตอนแรกผมก็คิดว่าเขาเคลียร์เรื่องให้หมดได้ จนกระทั่งผม Login เข้าไปดูข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการของธนาคารและพบที่อยู่เดิมในระบบ ซึ่งตัวระบบนั้นไม่ได้มีช่องทางให้แก้ไขข้อมูลนี้ได้ด้วยตัวเอง จึงทำให้ผมต้องไปติดต่อกับธนาคารแห่งนี้อีกรอบเพื่อจัดการเปลี่ยนที่ติดต่อในฐานข้อมูลของบริษัทหลักทรัพย์จัดการของธนาคารนี้

ทิ้งท้าย

จากเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ จะเห็นว่าแม้ธนาคารต่าง ๆ จะพยายามเชื่อมโยงฐานข้อมูลลูกค้าในระบบของธนาคารแล้ว แต่ก็ยังมีประเด็นว่าบางธนาคารมีข้อกังวลที่จะให้ลูกค้าแก้ไขข้อมูลส่วนนี้ได้เอง รวมถึงการเป็นบริษัทลูกที่ไม่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันได้ ทำให้ประสบการณ์การใช้งานมันไม่ค่อยราบลื่นเท่าที่ควร เพราะก็ไม่สามารถดำเนินการกระบวนการที่เหมือนง่าย ๆ นี้ด้วยตัวเองได้ รวมถึงไปธนาคารไม่สามารถดำเนินการกรอกฟอร์มใบเดียวเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อมูลนี้กับทุกบริษัทที่เกี่ยวข้องได้

Tags