เราเลือกให้คนไปทำงานให้เรา หรือเราเลือกให้คนเข้าไปเหยียบค้ำหัวเรา
เราเลือกให้คนไปทำงานให้เรา เขาก็น่าจะมีสถานะเป็นผู้รับใช้เรา แต่ไหงกลายเป็นเหมือนคนที่ทำงานให้เรากลายเป็นเจ้านายเราเสียได้เพราะอำนาจบารมีมากมายเหลือเกิน
พออำนาจบารมีมาก จะสั่งอะไรก็ไม่ยอมฟัง กลายเป็นตัวของตัวเอง (และตัวกูของกู) ไม่สนใจในข้อเรียกร้องหรือสิ่งที่ได้สัญญาไว้ว่าจะทำในก่อนที่เราจะเลือก
ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่า Gesture พิเศษนั้นคืออะไร แต่ตอนนี้สามารถทำให้ปุ่ม Home ใช้งานไม่ได้แล้ว
หลัก ๆ คือ Backup ที่ทาง Apple แจกให้กับ Apple Store นั้นมีการปรับแต่งค่าของไฟล์ com.apple.springboard.plist โดยให้คีย์ SBDisableHomeButton มีค่า Boolean เป็น YES ซึ่งเข้าใจว่าคีย์นี้มากับ SpringBoard รุ่น iOS 4.3 อาจจะมีคีย์ SBDontLockEver ด้วยก็ได้ เนื่องจากไม่ต้องการให้ล็อคเครื่อง
ขั้นต่อไปคือการทำ Web App ที่มีการเรียกใช้งาน PastryKit ซึ่งจะทำให้หน้าเว็บที่ดูเหมือน Native App
ปกติถ้าไปอ่านในเว็บบอร์ดชุมชนคนใช้คอมพิวเตอร์หลาย ๆ ที่ก็มักจะพบคำถามรูปแบบนี้ หรือคล้าย ๆ กันนี้
จริง ๆ แล้วคำว่า Retina Display น่าจะเป็นคำเรียกใหม่ของ Resolution Independence ซึ่งเป็นเทคโนโลยีตัวหนึ่งที่ถูกพูดถึงใน Mac OS X ตั้งแต่ยุค 10.4 พอมายุค 10.5 ก็มีการพูดถึงอีกแต่ปรากฏว่าหายไปจากหน้าเว็บที่มีการกล่าวถึงในภายหลังก่อนที่จะมีการวางจำหน่าย 10.5 แล้วมันก็มาโผล่สู่หน้าจอผู้ใช้ใน iPhone 4, และ iPod touch รุ่น 4 ในเวลาต่อมา
เทคนิคก็คือ การขยายหน้าจอขนาดเดิมเป็น 2 เท่าของขนาดเดิม (ไม่ได้ทำการ Double Pixel นะ แต่เรนเดอร์การแสดงผลเป็น 2 เท่าแทน) แต่แสดงผลบนจอภาพที่มีความละเอียดมากขึ้นกว่าปกติ 2 เท่าในขนาดเท่าเดิม จึงทำให้ภาพที่ได้ออกมาคมชัดสวยงามกว่าหน้าจอขนาดปกติ
เขาว่ากันว่า #appleTH อาจจะสั่งเลื่อนจำหน่าย iPad 2 เนื่องจากมีบางเว็บเอาข้อมูลนี้มาเปิดเผย จนถึงขั้นไล่ตามเฉ่งแหล่งข่าวมั่วบ้างตรงบ้าง
ถ้าให้ลองวิเคราะห์กันเล่น ๆ ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามขึ้นมา ต้องย้อนกลับมามองก่อนว่ากำหนดการนี้ใครเป็นคนกำหนดแต่แรก #appleTH เอง หรือว่ามาจากทางภูมิภาค หรือมาจากทาง Apple Inc.? หาก #appleTH ไม่ได้เป็นคนกำหนด แต่สามารถเสนอความเห็นไปยังผู้กำหนดให้เลื่อนได้ แล้วจะอ้างเหตุอะไรล่ะ? แค่เว็บ 1 เว็บเปิดข้อมูลมาก่อน มันจะเพียงพอให้ทำเชียวหรือ? แล้วถึงอ้างได้ แต่ถ้า Apple Store Thailand ที่ #appleTH ไม่ได้ดูแลไม่เอาด้วย แล้วจะเกิดอะไรขึ้น???
ก็คงเป็นปรากฏการณ์ประหลาด ๆ น่าดูเลยทีเดียว หากเรื่องนี้จะเกิดขึ้นจริง แต่เพราะความหมั่นไส้เหรอ? หรือเพราะเรื่องนี้เป็นความลับทางธุรกิจที่ยอมหักกันไม่ได้เชียวเหรอ? ไม่มีใครรู้คำตอบก็ได้แต่คอยวันที่ 6 ว่าจะยังคงมีงานเปิดตัวเช่นเดิมหรือไม่?
หลังจากออกจากจีนเมื่อราวเกือบสองทุ่มเมื่อวันจันทร์ที่ 11 บัดนี้วันที่ 15 ราว ๆ บ่ายสามหลังจากตรวจสอบจากเว็บ DHL ซึ่งได้แจ้งสถานะว่าได้ "ดำเนินการแล้ว"
ได้โทรไปสอบถาม Call Center ของ DHL (แหมไม่น่าเชื่อว่ายังมีคนรับสายนะ) ทางพนักงานปลายสายแจ้งมาว่า เริ่มเคลียร์กับด่านศุลกากรแต่เมื่อวานแล้ว (เราก็นึกว่าหยุดสงกรานต์นะ) แต่โดยปกติขั้นตอนนี้จะต้องบวก 1 วันเสมอ ทำให้กว่าจะแสดงสถานะในระบบให้ลูกค้าเห็นเป็นวันนี้
ดังนั้นจากที่เข้าใจก็น่าจะถูก คือของคงบินมาถึงไทยแต่วันที่ 12 แล้ว แต่อาจจะหยุดสงกรานต์หรืออะไรก็แล้วแต่ เพิ่งได้เริ่มดำเนินการเมื่อวานนี้
และยังได้รับความรู้เพิ่มเติมมาว่า สินค้าของ Apple จะมาเป็นตู้ใหญ่ ไม่สามารถให้ลูกค้าเข้าไปเอาออกมาเองจากที่สุวรรณภูมิได้ (เป็นข้อตกลงทางธุรกิจ) ต้องรอรอบจัดส่งซึ่งจะเริ่มอีกทีวันจันทร์ที่ 18 นี้ตอนเช้า ทางพนักงานก็ประมาณเวลาจัดส่งให้ว่าน่าจะถึงราว ๆ เที่ยง ส่วนคำสั่งพิเศษอะไรทางนั้นไม่ทราบ ให้รอดูเอกสารที่แนบมาตัวสินค้า แต่เขาก็ได้ยกตัวอย่างของ DELL ว่าทาง DELL จะมีเอกสารวิธีการให้ แล้วให้เราโทรไปเรียก DHL มารับสินค้าแล้วระบุข้อมูลตามเอกสารเพื่อที่จะไม่ต้องเสียค่าบริการจัดส่งสินค้าเป็นเงินสดเมื่อมารับสินค้า คิดว่าทาง Apple ก็คงจะทำคล้าย ๆ กัน
รอวันจันทร์เช้า ว่าแต่จะแบกเครื่องไปด้วยดีไหมเนี่ย? ดูท่าจะพะลุงพะลังน่าดูเลยทีเดียว